ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยกไฟฟ้า
ความหมาย battery forklift
Batteries เป็นแหล่งสะสมพลังงานไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงปฏิกริยาทางเคมี พลังงานไฟฟ้าที่สะสมไว้ได้นี้เป็นพลังงานไฟฟ้าชนิดกระแสตรง
(Direct Current)
- ส่วนประกอบ (กรณีแบตเตอรี่ตะกั่วกรด หรือ Lead Acid
Battery)
1.1
แผ่นธาตุบวก
ทำด้วยตะกั่วไดออกไซด์ (Pb2) มีหลายชนิด
เช่น
แผ่นเรียบ
แผ่นหลอด
ซึ่งแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป
1.2
แผ่นธาตุลบ ทำด้วยตะกั่วบริสุทธิ์ (Pb)
ส่วนใหญ่เป็นแผ่นเรียบ
1.3
แผ่นกั้น (Separator) ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้แผ่นธาตุบวกและลบสัมผัส
ลัดวงจรกัน คุณสมบัติของแผ่นกั้นที่ดีต้องยอมให้โมเลกุลของน้ำกรดผ่านได้สะดวก
แต่ต้องไม่ยอมให้ประจุไฟฟ้าไหลผ่านได้ มีหลายชนิด เช่น
ไมโคร โพรัสรัมเบอร์
PVC
กระดาษเซลลูโลส
1.4
น้ำยาอีเล็คโตรไลท์ (Electrolyte) คือสารละลายที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเคมี
ในที่นี้จะเป็นสารละลายกรดกำมะถัน (Sulphuric Acid)
หรือเรียกกันสั้นๆว่า “น้ำกรด”
1.5
เปลือกเซลแบตเตอรี่
(Cell
Jar) ทำหน้าที่ประจุส่วนประกอบต่าง ๆ กรุ๊ปแผ่นธาตุและน้ำกรดไว้ภายใน มีหลายชนิด
เช่น
เปลือกยางสีดำ (Hard Rubber)
เปลือกพลาสติกขุ่น หรือสีดำ (Polypropolyne - PP)
1.6
ฝาปิดเซลแบตเตอรี่ (Cell Lid)
ทำหน้าที่ปกปิดไม่ให้เศษวัสดุหรือสารที่ไม่ต้องการตกลงภายในเซลแบตเตอรี่
ส่วนมากทำมาจากวัสดุชนิดเดียวกับเปลือกเซลแบตเตอรี่
1.7
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อื่น ๆ ประกอบด้วย
ขั้ว (Therminal Post)
ยางอัดขั้ว (Rubber Grommet)
ขารองกรุ๊ปแผ่นภายในเซล (Prism)
จุกปิดฝา (Vent Plug)
สะพานไฟ (Intercell Connector)
- การทำงานของแบตเตอรี่ชนิดน้ำกรด (Lead Acid
Battery)
ค่าความต่างศักย์ระหว่างขั้วบวกและขั้วลบ
=
2.1 Volts
เมื่อแบตเตอรี่ประจุไฟฟ้าเต็ม
(Charged) จะมีแรงดันต่อเซลเท่ากับ 2.1
Volts
(แต่โดยทั่วไปมักจะพูดกันที่ค่าแรงดันต่อเซลเท่ากับ 2 Volts) และค่าความถ่วงจำเพาะ หรือ ถ.พ.
ของน้ำกรดจะสูงขึ้นจนได้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ เช่น 1.270 เป็นต้น
ต่อมาเมื่อแบตเตอรี่ถูกนำมาใช้งาน
(Discharged) อนุมูลซัลเฟตจะแยกตัวและถูกดูดซับเข้าไปในแผ่นธาตุบวกและแผ่นธาตุลบ ทำให้ความเข้มข้นและ
ถ.พ.ของน้ำกรดลดต่ำลงจนมีค่าใกล้ 1.150 ซึ่งจะทำให้ค่าแรงดันของแบตเตอรี่ลดตามลงไปด้วย
เมื่อนำแบตเตอรี่กลับมาประจุไฟใหม่ (Recharge) เครื่องประจุไฟฟ้า
(Charger) จะจ่ายกระแสไฟคืนเข้าไปยังตัวแบตเตอรี่เพื่อขับไล่อนุมูลซัลเฟตที่อยู่ในแผ่นธาตุบวกและแผ่นธาตุลบให้กลับมาผสมกับน้ำทำให้
ถ.พ. และแรงดันของแบตเตอรี่เพิ่มกลับขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง
- หน้าที่ของแบตเตอรี่เมื่อนำมาใช้งานกับรถยกไฟฟ้า
ให้กำลังไฟฟ้ากับมอเตอร์ปั้มไฮโดรลิค
ให้กำลังไฟฟ้ากับมอเตอร์ขับเคลื่อน
ให้กำลังไฟฟ้ากับมอเตอร์พวงมาลัย
ให้กำลังไฟฟ้ากับระบบแสงสว่าง , สัญญาณต่างๆ
และระบบควบคุม (ควรใช้ DC
To Dc converter)
เป็นน้ำหนักถ่วงในขณะยกของ(Counterbalance)
- อายุของแบตเตอรี่
โดยปกติอายุของแบตเตอรี่จะกำหนดเป็นจำนวน
Cycles
แบตเตอรี่ชนิดแผ่นหลอด =
1200 - 1500 Cycles
แบตเตอรี่ชนิดเรียบ = 700
- 800 Cycles
(Discharged
80% and Recharge 8 – 12 Hr )
1 Cycles หมายถึง การใช้งาน (Discharge) 1 ครั้ง และประจุไฟกลับคืน(Recharge) 1 ครั้ง
ข้อเสนอแนะในการใช้แบตเตอรี่ เพื่อการบำรุงรักษา
สิ่งที่ควรปฏิบัติ
1.
ตรวจเช็คระดับของน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับอยู่เสมอ
2.
ใช้น้ำกลั่นบริสุทธิ์เท่านั้น
เติมลงในแบตเตอรี่
3.
บำรุงรักษาแบตเตอรี่ให้สะอาดอยู่เสมอ
เพื่อป้องกันการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า
4.
สวมถุงมือและแว่นตา
เพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
5.
ให้รีบประจุไฟให้กับแบตเตอรี่ทันทีเมื่อใช้งานแบตเตอรี่เสร็จแล้ว
6.
เปิดจุกปิดฝา ในขณะที่ประจุไฟ
เพื่อระบายความร้อนและแก๊สได้ดียิ่งขึ้น
7.
ประจุไฟให้เต็มทุกครั้ง ก่อนนำไปใช้งาน (ถ.พ
1.270-1.280)
8.
เมื่อประจุไฟเต็มแล้วก่อนนำออกใช้ควรทิ้งไว้ประมาณ
30 นาทีเพื่อให้อุณหภูมิลดลงก่อน
9.
ปิดฝาครอบขั้วแบตเตอรี่ให้เรียบร้อย
เพื่อป้องกันการลัดวงจร
10.
ตรวจเช็คอุปกรณ์ของแบตเตอรี่อยู่เสมอ
หากชำรุดควรแก้ไขหรือแจ้งให้ผู้รับผิดชอบทราบ
สิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติ
1.
ใช้แบตเตอรี่เกินอัตราที่กำหนด ถ.พ ต่ำกว่า
1.150
2.
ประจุไฟเกิน (Over Charger) อัตราที่กำหนด
3.
เติมน้ำกลั่นน้อยหรือมากเกินไป
4.
ใช้เครื่องมือที่เป็นโลหะโดยไม่มีฉนวนหุ้ม
5.
สูบบุหรี่ หรือทำให้เกิดประกายไฟใดๆ
ใกล้แบตเตอรี่
6.
เปลี่ยนหรือเคลื่อนย้ายแบตเตอรี่โดยไม่ระมัดระวังอาจเกิดอันตรายกับผู้ปฏิบัติงานหรือตัวแบตเตอรี่ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น